รัฐบาล โว เน็ตบรอดแบรนด์ไทยเร็วอันดับ 3 โลก

รัฐบาล โว เน็ตบรอดแบรนด์ไทยเร็วอันดับ 3 โลก

โฆษกสำนักรัฐบาล โว เน็ตบรอดแบรนด์ไทยเร็วอันดับ 3 โลก แถมค่าเฉลี่ยเน็ตมือถือถูกกว่าค่าเฉลี่ยของโลก ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องอินเทอร์เน็ต นาย อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้ประชาชนเข้าถึงได้ทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ โดยเห็นเป็นผลสำเร็จจากการตั้งใจจริงของรัฐบาล ซึ่งพบว่าประเทศไทยให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์เร็วที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก และมีพื้นที่ให้บริการ 5G ครอบคลุมมากกว่าร้อยละ 90 ของประเทศ

นาย อนุชา กล่าวว่า จากการเก็บรวบรวมข้อมูลของ Ookla 

ผู้ให้บริการทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตชื่อดัง รวบรวมข้อมูลตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 จนถึงเดือน กรกฎาคม ปี 2022 พบว่าประเทศชิลี สิงคโปร์ และไทย เป็น 3 อันดับแรกที่มีความเร็วอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์สูงสุด โดยสิงคโปร์และชิลีที่มีความเร็วเกิน 200 เมกะบิตต่อวินาที (Mbps) ในขณะที่ไทยมีความเร็วอยู่ที่ 189.64 Mbps ซึ่งเร็วกว่าอีกหลายประเทศอย่างฮ่องกง มาเก๊า และสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ ในส่วนของการบริการอินเทอร์เน็ตผ่านพื้นที่ที่รับสัญญาณ 5G เป็นข้อมูลที่สอดคล้องกับการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ พบว่าสอดคล้องกับแผนที่แสดงพื้นที่ครอบคลุม 5G ของไทย ซึ่งเมื่อดูจากแผนที่จะเห็นได้ว่าประเทศไทยมีพื้นที่ครอบคลุม 5G จำนวนมากกว่าร้อยละ 90 ของพื้นที่ทั้งหมด

นอกจากนี้ จากข้อมูลรายงานการสำรวจรวบรวมโดย We Are Social เมื่อปี 2021 พบว่าราคาค่าใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือของคนไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.06 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 GB ซึ่งถูกกว่าค่าเฉลี่ยของโลกที่ 4.07 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 GB

“รัฐบาลให้ความสำคัญกับการบริการโครงข่ายอินเทอร์เน็ตแก่ประชาชน เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและขับเคลื่อนประเทศไปสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล รวมทั้งให้สอดรับกับการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการทำธุรกิจและธุรกรรมออนไลน์ โดยส่งเสริมการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตทุกประเภทให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และแสวงหาความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการยกระดับมาตรฐานโครงข่ายอินเทอร์เน็ตของไทย เพื่อให้พี่น้องชาวไทยสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพ” อนุชากล่าว

สื่อเกาหลีใต้เผยมี ผู้เสียชีวิต 7 ศพ จากน้ำท่วมสูงอิทธิพล ไต้ฝุ่นหินหนามหน่อ หลังลงไปในลานจอดรถ รอดตาย 2 ศพ เพราะเกาะท่อเพดานได้ทัน เมื่อวันที่ 7 กันยายน สำนักข่าว BBC รายงานว่าพบผู้เสียชีวิต 7 ศพจากเหตุน้ำท่วม ซึ่งเป็นอิทธิพลจากไต้ฝุ่นหินหนามหน่อ ภายในลานจอดรถในเมืองโพฮัง ประเทศเกาหลีใต้ หลังจากที่ประชาชนกลุ่มดังกล่าวลงไปในลานจอดรถ เพื่อเคลื่อนรถของพวกเขา ตามคำขอของทางอพาร์ทเม้นท์

อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ 2 ราย โดยผู้รอดชีวิตเกาะบนท่อเพดานนานกว่า 12 ชั่วโมง ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นผู้รอดชีวิตมีอาการทรงตัว

นาย ยุนซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวแสดงความเสียใจต่อโศกนาฎกรรมครั้งนี้ พร้อมระบุว่าในขณะเกิดเหตุประชาชน 9 คนได้ลงไปในที่จอดรถใต้ดิน เพื่อเคลื่อนย้าย ก่อนที่ถูกน้ำท่วมซัดและเกิดเหตุโศกนาฎกรรมขึ้น

ทั้งนี้มีผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นหินหนามหน่อแล้วอย่างน้อย 10 ศพ โดยไต้ฝุ่นลูกดังกล่าวได้พัดกระหน่ำบริเวณทางตอนใต้และตะวันออกของประเทศเกาหลีใต้ในช่วงวันจันทร์และวันอังคารที่ผ่านมา

นักเรียนอินเดีย มัดครูกับต้นไม้ ก่อนซ้อม โกรธให้คะแนนน้อย

ตำรวจลงพื้นที่หลังได้รับรายงานว่า นักเรียนอินเดีย มัดครูกับต้นไม้ ก่อนซ้อมทำร้ายครู เหตุผลเพราะโกรธที่ให้คะแนนน้อย เมื่อวันที่ 1 กันยายน เว็บไซค์ Mathrubhumi ได้รายงานเรื่องราวสุดแปลกที่ขึ้นที่เกิดขึ้นในประเทศอินเดีย หลังจากที่กลุ่มนักเรียนจับครูมัดต้นไม้และทำร้ายร่างกายครูเพื่อเป็นแก้แค้นที่ครูให้คะแนนพวกเขาน้อย และทำให้พวกเขาสอบตก

เมื่อเจ้าหน้ามาถึงที่เกิดเหตุพวกเขาก็เห็นครูคณิตศาสตร์และบุคลากรรวม 3 คนถูกผูกไว้กับต้นไม้ โดยจากการตรวจสอบทำให้ทราบว่าในคาบเรียนดังกล่าวมีนักเรียน 32 คน และในจำนวนดังกล่าวมีนักเรียน 11 คนที่สอบตก โดยนักเรียนระบุว่าในส่วนข้อสอบภาคปฏิบัติ ไม่ได้ให้คะแนนและไม่ได้มีการอธิบายว่าเพราะเหตุใด

หลังจากที่ทราบว่าสอบตก นักเรียนก็ได้ไปขอความช่วยเหลือกับบุคลากรในโรงเรียน ทว่าทางบุคลากรปฏิเสธ ทำให้นักเรียนยิ่งโกรธแค้นกว่าเดิม

ทางนักเรียนจึงออกอุบายแกล้งนัดครูคุยเรื่องผลการสอบ และเมื่อครูและบุคลากรพวกตามนัดก็จับมัดเข้ากับต้นไม้และก่อเหตุทำร้ายร่างกายจนครูและบุคลาการได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรก็ดีครูสอนคณิตศาสตร์คนดังกล่าวที่ถูกมัดกับต้นไม้ได้อธิบายภายหลังในส่วนของคะแนนข้อสอบภาคปฏิบัติ ว่าจริงๆแล้วคะแนนในตรงนี้ยังไม่ได้ถูกรวมกับผลสอบ โดยคะแนนส่วนนี้ถูกส่งไปให้ผู้อำนวยการโรงเรียนแล้ว และอยู่เหนือการควบคุมของครู

ทั้งนี้ไม่มีการเปิดเผยเพิ่มเติมว่ากลุ่มนักเรียนที่มัดครูกับต้นไม้ โดนไล่ออกหรือได้รับโทษอะไรหรือไม่

จากข้อมูลเหล่านี้ทำให้ได้เข้าตาสภาของสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็ทำให้เกิดการไต่สวนขึ้นมา และตัว Haugen นั้น ได้ถูกเรียกเชิญไปให้การกับรัฐสภาในวันนี้ (อังคาร) โดยในเวลานี้ทาง Facebook ได้ออกมาปฏิเสธถึงการกล่าวหาที่ว่า พร้อมทั้งพูกว่าสิ่งที่หลุดออกมานั้นเป็นเรื่องไร้สาระ จากคำพูดของ Nick Clegg รองประธานฝ่าย Global Affair ของ Facebook

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป